33.3 C
Bangkok
วันอังคาร, พฤษภาคม 14, 2024

5 เหตุผลทำไมผมถึงแนะนำให้คุณนั้นเดินทางมาเที่ยวที่บรูไน

บรูไน
Sultan Omar Ali Saifuddin Mosque in Bandar Seri Begawan - Brunei

บรูไน ถือว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่ได้รับการยอมรับ และได้รับการยกย่องจากนักท่องเที่ยวทั่วโลกถ้าได้มีโอกาสมาเยือนแล้ว คุณจะต้องมีความประทับใจกลับไปอย่างแน่นอน สำหรับเหตุผลดี ๆ ในบทความชิ้นนี้ผมต้องการบอกความประทับใจเมื่อครั้งที่ผมได้มาเยือนที่ บรูไน ให้คุณได้รับทราบกันครับ เป็นอย่างไรบ้างมาดูไปพร้อม ๆ กันนะครับ

การเดินทางไปเที่ยวที่สะดวกสบาย

คุณต้องการเดินทางมาเที่ยวที่บรูไน การเดินทางสามารถทำได้อย่างสะดวกสบายมาก เนื่องจากมีสายการบินจาก ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิที่บินตรงมาลงที่ประเทศบรูไนทุกเที่ยวบินต่อสัปดาห์ และการเดินทางกลับนั้นสามารถเดินทางได้ทุกวัน จึงทำให้คุณนั้นสะดวกสบายตลอดการเดินทาง

ปัญหาเรื่องของอาชญากรรมที่มีน้อย

ที่ ประเทศบรูไน จะมีหนึ่งปัญหาที่ไม่ค่อยเจอเหมือนกับในประเทศไทยของเรานั่นคือเรื่องของปัญหาอาชญากรรม จริง ๆ แล้วถือว่ามีน้อยมาก ๆ เลยนะครับ เมื่อเทียบกับปัญหาในด้านอื่น ๆ ดังนั้นคุณจึงรู้สึกได้ถึงความปลอดภัย เมื่อตัดสินใจเดินทางมาเที่ยวที่ประเทศแห่งนี้ครับ

บ้านเมืองสวยงาม

ด้วยรูปแบบของการตกแต่งบ้านเมืองตามแนวของหลักศาสนาอิสลาม ทำให้เราได้เห็นมัสยิดโดมสีทองที่สวยงามเรียงรายตระหง่านอยู่ในเมืองหลวง และอีกหลาย ๆ เมืองรวมทั้งพระราชวังของกษัตริย์ใน ประเทศบรูไน ที่สวยงามและมีความอลังการมาก ที่สำคัญ คุณสามารถเดินทางเข้าไปเที่ยวชมได้ด้วย

บรูไน
Mosque in Brunei

อาหารการกินในแบบของศาสนาหลากหลาย

สิ่งที่น่าประทับใจอีกประการหนึ่งคือ เรื่องของอาหารการกิน ที่ประเทศนี้มีอาหารการกินในรูปแบบของศาสนาหรือเรียกกันว่าอาหารอิสลามนั้นเป็นจำนวนมาก รสชาติอร่อย และที่สำคัญคือ เครื่องเทศที่ปรุงแต่งลงไปนั้นทำให้อาหารมีรสชาติที่จัดจ้าน น่ารับประทานเป็นอย่างยิ่ง

เป็นเมืองแห่งการแสวงบุญได้

เมืองนี้ถือว่าเป็นอีกหนึ่งประเทศที่ถ้าคุณนับถือศาสนาอิสลามแล้ว ผมแนะนำว่านาจะลองแวะมาเยือนกันสักครั้ง มาเที่ยวชมกันสักหน เพื่อให้คุณนั้นได้ซึมซับวิถีชีวิตของชาวบรูไน และวิถีชีวิตของความเป็นชาวมุสลิมที่มีความสงบสุข ผมเชื่อว่ามีภาพแห่งความประทับใจอีกมากมายรอคุณอยู่ที่นี่ประเทศบรูไนครับ ที่สำคัญสาว ๆ เมืองนี้หน้าตาดีกันทุกคนเลยนะ

ผมมีเหตุผลมากมายที่จะบอกเล่าคุณถึงความประทับใจเมื่อครั้งได้มาเยือนที่บรูไน แต่เชื่อว่าหากคุณนั้นได้สัมผัสกับกับบรูไนสักครั้ง เชื่อว่าเหตุผลดี ๆ เหล่านี้คุณจะต้องนึกออกตามที่ผมได้กล่าวไว้อย่างแน่นอนครับ ดังนั้นอย่าลืมหาโอกาสมาสัมผัสกับประเทศเล็กๆที่น่าเที่ยวที่นี่นะครับ … บรูไน

5 สถานที่ท่องเที่ยวที่เมืองจาการ์ตา

ชมบ้านเก็บศพทรงแปลกที่โทราจาแลนด์
ชมบ้านเก็บศพทรงแปลกที่โทราจาแลนด์

หลายคนที่เดินทางมาท่องเที่ยวที่ ประเทศอินโดนีเซีย มักจะเดินทางมาเมืองหลวงอย่าง เมืองจาการ์ตา ที่มีแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญและน่าสนใจมากมาย ซึ่ง เมืองจาการ์ตา ถือเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเมืองนี้ตั้งอยู่บนเกาะชวา ในอดีตมีชื่อว่า ปัตตาเวีย หรือ บาตาเวีย โดยมีประชากรอาศัยกว่า 8.3 ล้านคน และเป็นศูนย์กลางทั้งด้านการปกครองและเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งการเดินทางจากบ้านเราไปเที่ยว เมืองจาการ์ตา ค่อนข้างสะดวก เพราะมีสายการบินที่บินตรงจาก ประเทศไทย ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจตามนี้

เยี่ยมชมความยิ่งใหญ่ของมัสยิดอิสติกลัล ประเทศอินโดนีเซีย
เยี่ยมชมความยิ่งใหญ่ของมัสยิดอิสติกลัล ประเทศอินโดนีเซีย

หมู่เกาะพันเกาะเมืองจาการ์ตา

หมู่เกาะพันเกาะ  Kepulauan Seribu ที่นี่จะประกอบไปด้วยเกาะน้อยใหญ่จำนวนมาก และมีความโดดเด่นของชายหาดอันสวยงามหลายแห่ง เป็นสวรรค์ของคนรักทะเลซึ่งนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มา เมืองจาการ์ตา ที่หมู่พันเกาะนอกจากจะเล่นน้ำและอาบแดดแล้ว ยังมีกิจกรรมทางน้ำที่น่าสนใจอย่าง แล่นเรือใบ พายเรือคายัก และดำน้ำชมแนวปะการังใต้ท้องทะเลที่ถือเป็นสีสันของการท่องเที่ยวที่ เมืองจาการ์ตา

จาการ์ตา โอลด์ ทาวน์ เมืองเมืองจาการ์ตา

ตาการ์ตา โอลด์ ทาวน์ Jakarta Old Town เป็นหนึ่งในสถานที่ที่นักท่องเที่ยวมักไม่พลาด สำหรับการมาเยือน เมืองจาการ์ตา ที่ เขตเมืองเก่า Kota Tua เพราะที่นี่ประกอบไปด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยงาม ไม่ว่าจะเป็นท่าเรือ อันเก่าแก่อย่าง Sunda Kelapaหรือสถานีรถไฟ  Jakarta Kota  และคุณยังจะได้เห็นสิ่งปลูกสร้างที่มีสถาปัตยกรรมของชาวดัตช์ในสมัยก่อนอีกด้วย รวมถึงพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์จาการ์ตาก็ตั้งอยู่ใน เมืองจาการ์ตา เขต Kota Tua เช่นกัน

เขต Ancol Dreamland เมืองจาการ์ตา

ถือเป็นสถานที่สุดหรรษาที่เหมาะแก่การพาครอบครัวมาพักผ่อนเป็นอย่างมาก หากมาเยือน เมืองจาการ์ตา ที่เขต Ancol Dreamland โดยตั้งอยู่บนชายฝั่งทางเหนือของ เมืองจาการ์ตา ที่นี่มีทั้งทะเลชวาและ สวนสนุกขนาดใหญ่ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำทะเล สนามกอล์ฟ รวมทั้งกระเช้าลอยฟ้าให้นักท่องเที่ยวได้ชมทัศนียภาพของ เมืองจาการ์ตา ในมุมสูง เรียกว่าที่เขตนี้มีทุกอย่างที่สมบูรณ์ครบครันเป็นดินแดนในฝันที่ตอบโจทย์สมาชิกทั้งครอบครัวได้เป็นอย่างดี

สวนสาธารณะ Taman เมืองจาการ์ตา

เมืองจาการ์ตา มีสถานที่ที่จะทำให้คุณได้สูดอากาศบริสุทธิ์แบบเต็มปอด นั่นก็คือสวนสาธารณะ Taman Park เมืองจาการ์ตา ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่สีเขียวกลางใจเมืองที่มีพื้นที่ที่ใหญ่ที่สุดของ เมืองจาการ์ตา และยังมีกิจกรรมสุดฮิตสำหรับนักท่องเที่ยวอย่างการปิกนิกท่ามกลางความร่มรื่นที่อยู่ภายในสวนสาธารณะ นอกจากนี้ยังสามารถเข้าชมพิพิธภัณฑ์หลายแห่ง โรงภาพยนตร์ขนาดมาตรฐาน และพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำได้อีกด้วย

ตลาด Jalan Surabaya Antique Market เมืองจาการ์ตา

ตลาดโบราณ Jalan Surabaya อยู่ในเขต Menteng เมืองจาการ์ตา เป็นตลาดขายของเก่าที่หายาก   ซึ่งนักท่องเที่ยวนิยมมา ซื้อของที่เป็นสไตล์คลาสสิกอย่าง กล้องถ่ายรูปโบราณ ตะเกียง  ของใช้ในสมัยโบราณ ฯลฯ เรียกว่าคลาสสิกไม่น้อยเลยสำหรับตลาดโบราณ Jalan Surabaya เมืองจาการ์ตา 

เมืองจาการ์ตา เป็นอีกเมืองที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และสีสันทางวัฒนธรรม ซึ่งในแต่ละวันมีนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาชมสถานที่ต่าง ๆ และที่สำคัญการเดินทางก็สะดวกและอยู่ไม่ไกลจากบ้านเรา ค่าครองชีพยังไม่แพงอีกด้วย

จองตั๋วเครื่องบินอินโดนีเซียราคาถูก

ตั๋วเครื่องบิน บินตรง ไปกลับ กรุงเทพ - จาการ์ตา ราคาถูก

Departure atReturn atStopsAirlineFind tickets
1 สิงหาคม 202410 สิงหาคม 2024Directอินโดนีเซียแอร์เอเชียTickets from 5 175

จองโรงแรมออนไลน์อินโดนีเซีย

ค้นหาโรงแรมและที่พักจาการ์ตาราคาถูก

HotelStarsDiscountPrice before and discountSelect dates
De 80's Genteng Ijo-11%555 496 View hotel
OYO 498 Green Lake View Ciputat★★-6%259 242 View hotel
OYO 3109 Point Inn★★-20%296 235 View hotel
OYO 90692 Point Hostel-25%333 251 View hotel
ซูเปอร์ โอโย 1121 โอเรียนจิ 2-14%370 318 View hotel
ซูเปอร์ โอโย 478 บัลคอน บิรุ★★-15%444 376 View hotel
เรดดอร์ซ พลัส ใกล้กับยูนิเวอร์ซิตาส์ อินโดนีเซีย★★★-6%407 383 View hotel
OYO 2034 Eden Guest House★★-18%370 304 View hotel
โอโย 121 รูมะห์ ยับ ชาเรียะห์-20%444 355 View hotel
RedDoorz near Cipinang Indah Mall-6%444 418 View hotel
เรดดอร์ซ พลัส ใกล้กับสถานีจาร์กาตา โกตา★★★-23%333 257 View hotel
โอโย 148 เจิมปากะ เพลซ โฮมสเตย์★★-29%444 317 View hotel
สกาย อินน์ ชาเรียะห์ ฟัตมาวาดิ 2 จาการ์ตา-6%407 383 View hotel
เดอะ แกรนด์ พาเลซ เรซิเดนท์★★-10%370 335 View hotel
OYO 1519 Axl Residence★★-23%370 284 View hotel
โอโย 1421 กัสมารัน เกสต์เฮาส์ ชาเรียะฮ์★★-44%555 313 View hotel
ซูเปอร์ โอโย 123 ปุรี โลตัส★★-16%444 372 View hotel
โรงแรม N1-46%666 357 View hotel
โอโย 136 มังกิสอินน์★★-22%407 316 View hotel
ซูเปอร์ โอโย 133 กรียา เจียจี-17%444 370 View hotel

ความสุขที่คุณจะได้รับหลังจากนั่งบีจาก์ ชมเมืองในอินโดนีเซีย

วัดพรัมบานัน ประเทศอินโดนีเซีย
วัดพรัมบานัน ประเทศอินโดนีเซีย

ประเทศอินโดนีเซีย ถือเป็นประเทศที่มีขนาดใหญ่ และมีภูมิประเทศที่สวยงามมากมาย ทั้งในส่วนของทะเลที่รายรอบพื้นที่ทั่วทั้งอินโดนีเซีย ทั้งในส่วนของภูเขา และภูเขาไฟที่ยังมีชีวิตอยู่ แต่นอกเหนือจากสิ่งที่เป็นธรรมชาติแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่ผู้เขียนต้องการให้คุณได้สัมผัสคือ การนั่งรถบีจาก์ เพื่อเที่ยวในเมือง สำหรับใครไม่เคยนั่งรถบีจาก์เที่ยวเมือง ผมขอแบ่งปันประสบการณ์ให้ฟังครับว่าเป็นอย่างไรบ้าง

เยี่ยมชมความยิ่งใหญ่ของมัสยิดอิสติกลัล ประเทศอินโดนีเซีย
เยี่ยมชมความยิ่งใหญ่ของมัสยิดอิสติกลัล ประเทศอินโดนีเซีย

นั่งรถบีจาก์เที่ยวชมเมืองจากาตาร์

เริ่มจากการนั่งรถบีจาก์เที่ยวชมทั่วเมืองหลวงอย่างกรุงจากาตาร์ (แต่ตามหัวเมืองต่างๆก็มีให้นั่งด้วยเช่นเดียวกัน) เวลานั่งเที่ยวและนั่งชม อย่าลืมมองออกมาข้างนอกระหว่างสองข้างทางที่รถพาคุณไปนะครับ เพราะว่าจุดที่รถบีจาก์จะพาคุณเดินทางไปนั้นจะเป็นจุดที่มีความสวยงามมาก ๆ และน่าจะเป็นจุดที่คุณนั้นประทับใจในการเดินทางไปเที่ยวชมอย่างแน่นอน

สัมผัสชีวิตของผู้คนทั่วเมือง

อันดับที่สองที่คุณนั้นจะได้รับจากการนั่งชมเมืองคือ การได้มองเห็นชีวิตของสังคมแวดล้อมต่างๆของเมือง ว่าเป็นอย่างไร การใช้ชีวิตของผู้คนต่างๆริมทางเท้า หรือว่าตึกรามบ้านช่องต่างๆ ทุกสิ่งเป็นตัวบอกเราให้เข้าถึงและสัมผัสกับความเป็นธรรมชาติที่สุดแสนวิเศษ และน่าประทับใจอย่างยิ่ง ดังนั้นอย่าลืมอย่างเด็ดขาดในการมาขึ้นนั่งรถบีจาก์เพื่อที่เที่ยวชมเมือง

ได้บรรยากาศเหมือนนั่งรถม้าที่ลำปาง

อีกหนึ่งสิ่งที่ผมอยากจะบอกคุณคือ การนั่งรถบีจาก์จะเป็นเสมือนกับการนั่งรถม้าที่ลำปาง ผมคิดว่ามันเป็นความรู้สึกเดียวกันแต่จุดที่แตกต่างกันคือ สภาพแวดล้อมนั่นเอง ที่นี่จะเป็นคนละแวดล้อมกับที่จังหวัดลำปาง แต่โดยส่วนตัวคิดว่าทั้งสองที่มีสิ่งที่เหมือนกันคือ ร้อนเหมือนกันครับ

ถ่ายภาพวิวสวย ๆ ตลอดการเดินทาง

กิจกรรมหนึ่งที่คุณจะต้องลงมือทำตลอดช่วงเวลาของการนั่งรถคือ การถ่ายภาพวิวตลอดการเดินทาง ภาพวิวจะเป็นอะไรที่บ่งชี้ให้คุณนั้นเห็นถึงความสวยงามของบ้านเมือง และฟิวประมาณว่ายิ่งถ่ายภาพยิ่งให้ความรู้สึกสนุกไปด้วยมากยิ่งขึ้น

แวะทานข้าวโพดปิ้งข้างทางด้วยนะครับ

ผมอยากแนะนำว่าระหว่างทางของการนั่งรถบีจาก์ อย่าลืมแวะทานข้าวโพดปิ้งกันด้วยนะครับ มีรสชาติอร่อยมากมายให้คุณนั้นได้เลือกทานกันเลยทีเดียว

ครบ 5 อรรถรสแห่งความสุขที่ได้รับจากการได้ขึ้นรถบีจาก์และเที่ยวชมรอบเมือง ดังนั้นมาอินโดนีเซียถ้าพลาดการทำกิจกรรมนี้ ผมถือว่าคุณยังเดินทางมาไม่ถึงที่ประเทศอินโดนีเซียนะครับ มาแล้วต้องมาที่นี่ด้วยรับรองว่าฟินสุดๆอย่างแน่นอน (อย่าลืมถ่ายภาพตนเองคู่กับรถบีจาก์ด้วยนะ)

ข้อควรรู้เมื่อคุณต้องเดินทางไปพักในโรงแรมบรูไน

บรูไน
View from top. Sultan Omar Ali Saifuddien Mosque is a royal Islamic mosque located in Bandar Seri Begawan, the capital of the Sultanate of Brunei

ก่อนหน้านี้เคยมีข่าว ที่บรรดาคนในวงการฮอลลีวู้ดต่างประท้วงกฎหมาย ที่สุลต่านบรูไน มีความประสงค์จะนำกลับมาใช้เพราะเป็นกฎหมายที่มีความรุนแรงจนถึงขึ้นประหารชีวิต หรือแม้แต่การปาหิน หากนักโทษโดนข้อหาคบชู้และการมีเพศสัมพันธ์กับคนเพศเดียวกัน ซึ่งแม้จะมีบทลงโทษออกมาเช่นนี้ ก็ทำให้ส่งผลต่อการท่องเที่ยว โดยเฉพาะการพักในโรงแรมบรูไน ที่แม้จะไม่ใช่เจ้าถิ่นก็เถอะ แต่หากมีการนัดชู้ หรือมีการรักร่วมเพศเกิดขึ้น ก็คงจะรู้สึกร้อน ๆ หนาว ๆ กันขึ้นมาบ้าง

บรูไน
Sultan Omar Ali Saifuddin Mosque in Bandar Seri Begawan – Brunei

การเดินทางมาท่องเที่ยวที่ ประเทศบรูไน ด้วยการพักในโรงแรมบรูไน อาจจะต้องระวังกันหลายๆ เรื่องเลยทีเดียว ด้วยที่นี่เป็นเมืองแห่งศาสนาอิสลาม การได้เรียนรู้กฎหรือข้อห้ามบางอย่างไว้ในระหว่างทริปการเดินทาง อาจจะมีส่วนช่วยให้คุณเที่ยวได้อย่างสนุกขึ้น

โรงแรมบรูไนในประเทศเล็ก ๆ

ความเป็นอยู่ของผู้คนใน บรูไน นั้นเงียบสงบ เพราะบรูไนเป็นประเทศเล็ก ๆ ทำให้ปราศจากความวุ่นวาย แต่ไม่น่าเชื่อว่าเลยว่าประเทศเล็ก ๆ แห่งนี้กลับมีความมั่งคั่งในทางเศรษฐกิจด้วยการส่งออกน้ำมันเป็นหลัก  ถนนหนทางของบรูไนมีความสะอาดเรียบร้อยและกว้างขวาง รวมถึงมีการพัฒนาเทคโนโลยีในด้านต่าง ๆ  ซึ่งประเทศมุสลิมแห่งนี้ยังมีมัสยิดที่สวยงาม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องขนาดและวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้าง รวมถึงการเข้าพักตามโรงแรมบรูไน ที่บางแห่งอาจจะมีกฎระเบียบที่ไม่เหมือนกัน

โรงแรมบรูไนกับกฎระเบียบ

โรงแรมบรูไน เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่รองรังนักท่องเที่ยวจากทั่วมุมโลก นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์ต่าง ๆ ที่จัดแสดงเรื่องราวหลากหลายประเภท ด้านวัฒนธรรมและธรรมชาติ บรูไน ก็มีให้เลือกดูเลือกชมด้วยเช่นกัน แม่จะมีความสวยงามของสิ่งก่อสร้างเพียงใด หากแต่ก็ยังมีกฎต่าง ๆ ที่นี่ร่ำลือกันว่าเคร่งครัดนัก ไม่เว้นแม้แต่ในโรงแรมบรูไน ด้วยวัฒนธรรม อารยธรรมอันเก่าแก่ที่มีมาแต่โบราณทำให้บรูไน มีกฎระเบียบ และข้อห้ามต่าง ๆ ที่บางข้อาจจะต้องนำติดตัวไปใช้กับทุกสถานที่กันเลยทีเดียว

โรงแรมบรูไนกับกฎต่าง ๆ ที่ต้องรู้

ไม่ว่าคุณจะอยู่ในโรงแรมบรูไน หรืออยู่นอกโรงแรม  ตามสถานที่ต่าง ๆ  การส่งของหรือรับของควรใช้มือขวาเท่านั้น แต่ก็สามารถใช้มือซ้ายช่วยประคองได้ และหากคุณได้รับการเชื้อเชิญให้รับประทานอาหาร และเมื่อไม่สะดวกและไม่ได้ร่วมรับประทานให้กล่าวคำว่าขอบคุณและใช้มือสัมผัสที่ภาชนะอาหารแทน ส่วนการแต่งกายในที่สาธารณะ สุภาพสตรีควรแต่งกายอย่างสุภาพและมิดชิด ไม่ควรใส่ชุดที่รัดแน่นหรือพอดีตัวจนเกินไป ที่สำคัญควรหลีกเลี่ยงการสังสรรค์ในหมู่สุภาพบุรุษจำนวนมาก

การแต่งกายในโรงแรมบรูไน

การแต่งกายในโรงแรมบรูไน หรือตามสถานที่อื่นๆ ควรหลีกเลี่ยงเสื้อผ้าสีเหลือง  เพราะสีเหลืองคือสีของสถาบันของพระมหา กษัตริย์ของบรูไน และควรหลีกเลี่ยงเสื้อผ้าลายรูปสัตว์หรือการให้ของขวัญที่มีรูปสัตว์ ส่วนสีดำถือเป็นสีของพิธีการของบรูไน .ซึ่งหากจะเข้าร่วมพิธีใด ๆ ที่เป็นทางการ สุภาพสตรีควรแต่งชุดสีดำที่มิดชิด  และหากเป็นไปได้ควรเป็นเสื้อแขนยาวและกระโปรงยาวคลุมข้อเท้า

5 กิจกรรมทางน้ำ ที่คุณต้องทำในบรูไน

บรูไน
Sultan Omar Ali Saifuddien Mosque, brunei during burning sunset

สำหรับใน ประเทศบรูไน เป็นประเทศเล็ก ๆ บนเกาะบอร์เนียว แม้บรูไนจะมีพื้นที่ติดทะเลแต่ใช่ว่าจะมีสถานที่ท่องเที่ยวทางทะเลที่โดดเด่นเท่าใดนัก หากแต่จะประเทศนี้มีชื่อเสียงในเรื่องของการขุดเจาะน้ำมันดิบในทะเลเสียมากกว่า ส่วนใหญ่ชายหาดที่นักท่องเที่ยวนิยมไปเที่ยวในบรูไนก็มีไม่มากเท่าใดนัก อย่างหาดตูตง ที่อยู่ระหว่างกรุงบันดาร์เสรีเบกาวันและเมืองซีเรีย ซึ่งไม่ค่อยต่างกับ สิงคโปร์  ที่แม้ภูมิประเทศจะเป็นเกาะ แต่ก็ไม่ได้โดดเด่นในเรื่องของแหล่งท่องเที่ยวทางทะเล เช่นกัน ส่วนชายหาดและที่พักตากอากาศส่วนใหญ่ถูกสร้างมาเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจของนักท่องเที่ยวมากกว่า แต่กระนั้นบรูไนก็ยังมีกิจกรรมทางน้ำที่น่าสนใจต่าง ๆ อยู่ไม่น้อย

กิจกรรมทางน้ำบนชายหาดบรูไน

การไปเที่ยวพักผ่อน ผ่อนคลายสบายๆ บนชายหาดอันสวยงามของบรูไน ที่นอกจากจะเป็นเมืองแห่งวัฒนธรรม และแหล่งอารยธรรมแล้ว ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับทำกิจกรรมทางน้ำสนุก ๆ พร้อมบรรยากาศการพักผ่อนแบบธรรมชาติ ที่บรูไนเอง แม้จะไม่โดดเด่นทางการท่องเที่ยวทะเล แต่นักท่องเที่ยวที่มาพักผ่อนแบบชิล ๆ  ซึ่งกิจกรรมทางน้ำของแต่ละชายหาด อาจจะแตกต่างกันออกไป ด้วยความที่เป็นประเทศแห่งเมืองน้ำมัน กิจกรรมหวือหวาหรือสไตล์แอดเวนเจอร์จึงไม่ค่อยได้มีให้เห็น อาจจะเป็นการเล่นฟุตบอล หรือวอลเล่ย์บอลชายหาดเท่านั้น เพื่อการพักผ่อนแบบแท้จริง

เที่ยวชายหาดกับกิจกรรมทางน้ำทะเลแสนสวยของบรูไน

การท่องเที่ยวทะเลแบบริมน้ำเช่นนี้ ที่บรูไนก็มีกิจกรรหลากสไตล์ไว้คอยบริการและรองรับนักท่องเที่ยวเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ และชิลๆ กับบรรยากาศริมหาด ไม่ว่าจะเป็นชายหาด  หาด Muara, หาด Serasa ,หาด Meragang, และหาด Pantai Seri Kenangan เนื่องจากบรูไนอยู่ติดกับทะเลจีนใต้ จึงมีชายหาดที่ล้อมรอบด้วยธรรมชาติ ชายหาดแต่ละที่ยังมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและโดดเด่น ส่วนใหญ่จะเป็นกิจกรรมทางน้ำแบบเบาๆ อย่างการเล่นน้ำทะเล และการดำน้ำตื้นดูปะการัง ซึ่งส่วนใหญ่จะไม่เน้นกิจกรรรมเท่าใด

กิจกรรมทางน้ำกับการพักผ่อนชิล ๆ ริมทะเล

แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ อันดับต้นๆ ของบรูไนที่หากเป็นการท่องเที่ยวทางทะเล คุณสามารถ เลือกเดินทางมาพักผ่อนริมทะเลแบบชิลๆ ซึ่งสามารถเลือกชายหาดที่สวยงามของประเทศบรูไนได้ตามใจชอบ เพราะทะเลที่บรูไนเองก็สวยไม่แพ้ที่อื่นเหมือนกัน และยังมีบริการ ร้านอาหาร โรงแรม สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ  สำหรับใครที่อยากจะหลีกหนีความจำเจ กับการงานอันน่าเบื่อ ลองแวะมานั่งพักผ่อนชิลๆ ทั้งกลางวัน และดินเนอร์ริมทะลหรือปาร์ตี้ชายหาดกลางคืน เพื่อปล่อยเวลาล่องลอยไปกับสายลมเป็นการชาร์จแบต สำหรับการใช้ชีวิตต่อไปในวันพรุ่งนี้ และเป็นการพักผ่อนจะทำให้คุณมีความสุขอย่างแน่นอน

ชมหมู่บ้านกลางน้ำที่ใหญ่ที่สุด

กิจกรรมทางน้ำอีกอย่างหนึ่งก็คือ การไปชมกัมปงไอเยอร์ เป็นหมู่บ้านกลางน้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลก  โดยตั้งอยู่บริเวณปากแม่น้ำบรูไน ซึ่งที่นี่เป็นหมู่บ้านกลางน้ำที่มีชาวพื้นเมืองอาศัยต่อเนื่องกันมายาวนานกว่า 1,300 ปี เลยทีเดียว ส่วนเสน่ห์ของกัมปงไอเยอร์ คือศิลปะของการสร้างบ้านเรือนแบบพื้นๆ นับพันหลัง และปลูกสร้างอยู่บนเสาค้ำยันโดยมีการและเชื่อมต่อกันด้วยสะพาน ซึ่งนอกจากเป็นหมู่บ้านสำหรับอาศัยแล้ว ยังมีมัสยิด โรงเรียน สถานีอนามัย ร้านค้า สถานีตำรวจ และร้านอาหาร แบบครบวงจรอีกด้วย

หมู่บ้านกัมปงไอเยอร์
หมู่บ้านกัมปงไอเยอร์ หมู่บ้านกลางน้ำที่ใหญ่ที่สุด

ล่องเรือชมทัศนียภาพกิจกรรมทางน้ำยอดฮิต

การล่องเรือ หรือนั่งเรือแท็กซี่ เป็นกิจกรรมทางน้ำ ที่สามารถใช้บริการได้ตลอด เพราะนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาชมทัศนียภาพต่างๆ ที่อยู่ติดริมแม่น้ำ หรือทะเล ด้วยการเหมาหรือจ้างเรือเพื่อที่จะดูวิถีชีวิตต่างๆ ของชาวบ้านที่อยู่ริมน้ำ รวมถึงการนั่งเรือรอบหมู่บ้านกลางน้ำแบบรอบๆ ที่จะทำให้การสัมผัสกับบรรยากาศของคุณเป็นไปอย่างใกล้ชิด แม้จะดูเป็นการใช้ชีวิตแบบพื้นบ้านแต่ชีวิตในกำปงไอเยอร์ก็นับว่าสะดวกสบาย เพราะมีทั้งเครื่องปรับอากาศ โทรทัศน์ดาวเทียม อินเทอร์เน็ต ซึ่งสามารถเดินทางมาสัมผัสด้วยบริการเรือแท็กซี่ได้ตลอดการเดินทาง

สันป่าเกี๊ยะ เชียงใหม่

สันป่าเกี๊ยะ เชียงใหม่

ซึ่งการเดินทางจากตัวเมืองเชียงใหม่ก็ไม่ยากเลยคะขับไปตามทางหลวงหมายเลข 107(เชียงใหม่-ฝาง) มองซ้ายไว้คะประมาณหลักกิโลเมตรที่67-68 จะมีป้ายบอกไปทางหน่วยจัดการต้นน้ำแม่ตะมานระยะทางประมาณ 21 กิโลเมตร แต่การเดินทางไปสันป่าเกี๊ยะนั่น ค่อนข้างที่จะลำบาก รถยนต์ที่ใช้ควรเป็น รถโฟร์วิลคะ แต่เราเปรี้ยวคะ แว๊นมอไซค์กันไป แต่มอไซค์ที่จะขึ้นไปได้ควรเป็นเกียร์ธรรมดานะคะ เพราะถนนบางช่วงในการขึ้นไปสันป่าเกี๊ยะนั้น ค่อนข้างชันและเป็นทางลูกรังค่ะ

สันป่าเกี๊ยะ เชียงใหม่
แรกๆทางก็ยังเป็นคอนกรีตอยู่นะคะ ทำให้เราดีใจเล่นเพราะทางขึ้นแรกๆดูดีมาก พอพ้นป้อมมาเท่านั้นละคะ

พอถึงครึ่งทางธรรมชาติก็ทำให้เราตื่นเต้น เพราะสองข้างทางมีต้นพญาเสือโคร่งที่แข่งกันบาน พลอยทำให้เราหายเมื่อตูดกันสักนิดคะ ระหว่างทางก็จะเห็นหมู่บ้านเล็กๆคะ ก็น่ารักดีได้เห็นวิถีชีวิตที่อยู่กันอย่างเรียบง่าย พอใกล้ๆถึงหน่วยจัดการต้นน้ำแม่ตะมาน เราจะได้เห็นธารน้ำซึ่งสวยงามมากๆ เราไม่รู้เลยคะว่าเราข้ามเขากันกี่ลูก เพราะเป็นเขาลูกเล็กลูกน้อยสลับกันไป อ้อ เกือบลืมไปคะ บนนั้นมีชาวบ้านซึ่งเขาก็แว๊นมอไซค์กันค่อนข้างเร็วค่ะ ระวังด้วยนะคะ บิดกันไปๆเรื่อยๆเราก็ถึง

สันป่าเกี๊ยะ เชียงใหม่

ศูนย์วิจัยและฝึกอบรมที่สูง สันป่าเกี๊ยะ ซึ่งอยู่ในความดูแลของ คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเชียงใหม่คะ ซึ่งตรงนี้ห่างจากหน่วยจัดการต้นน้ำแม่ตะมานประมาณ 300 เมตรคะ ถ้าถึงหน่วยจัดการต้นน้ำแม่ตะมานแล้ว ไม่มีเจ้าหน้าที่ไม่ต้องตกใจนะคะเพราะว่าที่นี่มีเจ้าหน้าที่น้อย มีแค่ 2-3คนเองคะ เจ้าหน้าที่ที่หน่วยจัดการต้นน้ำแม่ตะมานจะแนะนำเราให้ไปกางเต็นท์ที่สันป่าเกี๊ยะคะ เพราะวิวสวยกว่า

สันป่าเกี๊ยะ เชียงใหม่

พอเราขับรถมาถึง ก็สวยอย่างที่เขาบอกจริงๆคะ มองเห็นวิวฝั่งดอยหลวงเชียงดาวด้วย เราออกจากตัวเมืองเชียงใหม่ประมาณ 10 โมงคะ ถึงที่สันป่าเกี๊ยะประมาณ บ่ายสาม พักมาเรื่อยๆขับมาเรื่อยๆคะ ไม่รีบร้อน พอถึงเห็นวิวแล้วหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง บนสันป่าเกี๊ยะไม่มีไฟฟ้านะคะแต่มีเครื่องปั่นไฟซึ่งเขาจะปั่นไฟตั้งแต่ 6โมงเย็น ถึง 4 ทุ่มคะข้างบนมีบ้านพัก เป็นหลังคะ หลังละ 1000 บาท แต่ถ้ากางเต็นท์ก็คนละ 50 บาทคะซึ่งเราก็เลือกกางเต็นท์คะ ข้างบนไม่มีร้านอาหาร ต้องเตรียมไปเอง แต่ถ้าอยากให้เจ้าหน้าที่เตรียมให้ หัวละประมาณ 350 บาทคะ ได้กับข้าว2 มื้อ ทั้งบ้านและอาหาร ต้องโทรติดต่อที่คณะเกษตรก่อนนะคะ ส่วนเต็นท์กางได้เลยค่า

สันป่าเกี๊ยะ เชียงใหม่
เรามาถึงเร็ว เลยทำให้ได้ที่กางเต็นท์ที่วิวดีที่สุด อิอิ พอกางเต็นท์เสร็จเราก็ออกสำรวจพื้นที่บริเวณรอบๆค่ะ

ความโชคดีของเราในทริปนี้คือ กับข้าวมื้อเย็น ซึ่งมีอาจารย์ที่เค้าขึ้นมาพักผ่อน เป็นอาจารย์ที่เคยดูแลสันป่าเกี๊ยะแต่เกษียณไปแล้ว แบ่งอาหารมื้อเย็นมาให้เราคะ ซึ่งก็เป็นลาภปากของเราเลย ฮ่าๆ มีอาหารพื้นเมืองด้วยคะ แกงขนุน อร่อยเหาะเลย

สันป่าเกี๊ยะ เชียงใหม่

การขึ้นมาบนนี้เป็นการได้สัมผัสวิถีชีวิต และธรรมชาติที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์อยู่ซึ่งถือว่าคุ้มมากค่ะในการเมื่อยตูดขึ้นมา ฮ่าๆ

พอเริ่มมืด ดาวเริ่มมา บนนี้สามารถมองเห็นตัวเมืองอำเภอเชียงดาวได้ด้วยนะคะ หน้าเต็นท์จะเห็นแสงไฟระยิบระยับ แข่งกับแสงดาวเลย เรานั่งคุยกันสักพัก ก็ต้องเข้าเต็นท์คะเพราะมันหนาวมากก ลมเริ่มแรงน้ำค้างเริ่มลง บรึ๊ย ย ย

พอรุ่งเช้า ก็จะเห็นพระอาทิตย์ขึ้น แล้วก็เห็นเมฆที่ฝั่งดอยหลวงเชียงดาวค่ะ ธรรมชาติสร้างสรรค์ความสวยงามได้อย่างลงตัวมากๆเลยคะ  กดชัตเตอร์กันรัวๆค่ะ

สำหรับความงดงามของสันป่าเกี๊ยะขอจบลงเพียงเท่านี้นะคะ เที่ยวเมืองไทยไม่ไปไม่รู้ค่า ไปแล้วค่าขับรถลงดอยเมื่อยตูดต่อ แอร๊ย ย ย 🙂

เที่ยวเมืองกาญจนบุรี ข้ามสะพานแม่น้ำแคว

สะพานข้ามแม่น้ำแคว จังหวัดกาญจนบุรี
สะพานข้ามแม่น้ำแคว จังหวัดกาญจนบุรี

ผมว่าเมืองไทย มีสถานที่ท่องเที่ยวที่หลากหลาย และ ไปได้หลายจังหวัด ถ้าคุณเป็นคนชอบทะเล คุณสามาถไปได้ทั้งภาคตะวันออก ภาคใต้ ไปทั้งชายหาด ไปทั้งเกาะ ถ้าชอบป่าชอบเขา ไม่ต้องหาให้ยากเลยครับ เพราะพื้นที่อุทยานของเมืองไทย ทั่วทุกภาคเต็มไปด้วยป่าเขาและต้นไม้นานาพันธุ์ ครั้งหนึ่งเมื่อนานมาแล้ว ผมและเพื่อนๆ ชวนกันไป เที่ยวเมืองกาญจนบุรี  พวกเราไม่ได้หาข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวมาเท่าไหร่ รู้แต่เพียงว่า ที่กาญจนบุรีมีล่องแพ

สะพานข้ามแม่น้ำแคว จังหวัดกาญจนบุรี

 

หลังจากหาข้อมูลได้ พวกเราขับรถไปถึงก็เกือบค่ำแล้วเส้นทางกาญจนบุรีจะไม่เหมือนเส้นทางไปชลบุรีเลยครับ เพราะระหว่างสองข้างทางคุณจะเห็นต้นไม้ยีนเรียงรายตลอดสาย นานๆ จะเจอบ้านเรือนคนซักหลัง พวกเราเห็นถนนว่างๆ ก็นึกสนุกลงไปถ่ายรูปเล่นกับถนนและต้นหญ้าข้างทางผมว่ามันให้ความรู้สึกอิสระอย่างบอกไม่ถูก เมื่อเราไปถึงก็เย็นมากแล้ว

เราจึงมองหา มื้อเย็นของวันแรกที่กาญจนบุรี เป็นร้านคุณป้าครับ อยู่บนแพริมน้ำ คุณป้าใจดีมาก เพราะให้พวกเราเข้าครัวลงมือทำกับข้าวเอง ผมยังจำไข่เจียวใส่ใบโหระพา ส้มตำที่เราทำกันเอง ได้เลยครับรสชาติอร่อยอย่าบอกใคร

รุ่งขึ้นพวกเราก็ติดต่อแพครับ เค้าก็จะพาเราล่องไปตามแม่น้ำแคว กาญจนบุรี ดูสองข้างแม่น้ำที่มีน้ำตกแควน้อย ต้นไม้ร่มรื่น แล้วก็พาเรามาผูกไว้ ตรงนี้เราสามารถเล่นน้ำได้อย่างสนุกสนานกันเลยทีเดียว เพราะแพนี้เราเหมามา กว้างขวางพอสมควร โดดขึ้นโดดลงเล่นน้ำ ลอยน้ำกันจนเมื่อยเลยครับ บ้างก็นอนรับลมเย็นๆ พอได้เวลา ก็มีเรือมาลากเรากลับที่พัก ถือเป็นการพักผ่อนที่มีความสุขจริงๆ เพราะได้ผ่อนคลาย และได้อยู่กับธรรมชาติ  1 วันเต็มๆ เลย

วันถัดมาพวกเราตื่นแต่เช้าเพราะทราบว่าแถวนั้นมีน้ำพุร้อนให้แช่ตัวครับ ผู้คนไปกันแต่เช้า เป็นร้อยๆ คนเพื่อมาแช่น้ำพุร้อนแห่งนี้ และผมคิดว่าน้ำพุร้อนที่กาญจนบุรี ร้อนที่สุดที่ผมเคยแช่มาเลยครับ เพราะมันร้อนยังกับน้ำเดือดๆ กว่าจะเอาตัวลงไปได้ก็ใช้เวลาอยู่นานทีเดียว แช่จนตัวแดงกันเลยครับ เมื่อทุกคนแช่น้ำเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาอำลาน้ำพุร้อนที่กาญจนบุรี

แต่ก่อนกลับ อีกหนึ่งสถานที่ที่ทุกคนต้องแวะมาก็คือ สะพานข้ามแม่น้ำแควครับ เมื่อก่อนเห็นจากในรูปดูเหมือนใหญ่มาก แต่จริงๆ แล้วไม่กว้างครับ แต่ก็มีมนต์เสน่ห์ของความเก่าอยู่พอสมควร พวกเราพากันเดินข้ามสะพานไปอีกฝั่ง นั่งเล่นริมน้ำให้หายเหนื่อยก่อนที่จะออกจากกาญจนบุรี ระหว่าทางที่กลับเราแวะซื้อของฝาก ขนมจากกาญจนบุรี กลับไปมากมาย และนี่คงเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ผมหลงใหลในจังหวัดกาญจนบุรีครับ เพราะด้วยธรรมชาติที่ไม่เหมือนจังหวัดอื่น ทำให้ผมต้องกลับมาอีกครั้งอย่างแน่นอน

เที่ยวตลาดน้ำอัมพวา เสน่ห์ของตลาดน้ำที่ไม่เคยจางหาย

ตลาดน้ำอัมพวา
บรรยากาศยามเย็น ที่ตลาดน้ำอัมพวา

ผู้เขียนมาถึงตลาดน้ำอัมพวา เวลาประมาณบ่ายสามโมง ซึ่งในช่วงเวลานั้นตลาดน้ำก็เปิดทำการเรียบร้อย ร้านต่างๆมากมายที่ตั้งอยู่ริมน้ำก็กำลังโชว์อะไรหลายๆอย่างเพื่อที่จะบอกถึงความอร่อยของร้านตนเอง ผมเดินและกินก๋วยเตี๋ยวเรือแบบนั่งกินริมน้ำครั้งแรก อร่อยมากๆและได้บรรยากาศดีครับ

ตลาดน้ำอัมพวา
บรรยากาศยามเย็น ที่ตลาดน้ำอัมพวา

สักพักใหญ่พอตะวันเริ่มเปลี่ยนเป็นสีทอง เสียงวิทยุตามสายก็เปิดเพลงมนต์รักแม่กลองดังลอยมาแต่ไกล ตอนนั้น ณ เวลานั้นฟังแล้วฟินมากๆครับ คือถ้าใครได้มาฟังในช่วงที่ผู้เขียนได้กล่าวถึงจะต้องมีความรู้สึกที่ไม่แตกต่างกันอย่างแน่นอน ผู้เขียนเดินไปอยู่บนสะพานที่ข้ามสองฝั่งและนั่งดูตลาดอัมพวาไปเรื่อยๆ

คุณผู้อ่านเชื่อหรือไม่ คนที่มาเที่ยวนั้นไม่มีคนอายุมากๆเลย มีแต่หนุ่มสาวศิลปินทั้งหลายที่มาเที่ยวกัน จนผู้เขียนคิดว่า หรือนี่จะเป็นแหล่งจีบกันของหนุ่มสาวรุ่นใหม่ที่ไม่ชอบการเที่ยวผับเทคเป็นต้นแต่ดูแล้วก็มีความสุขดีนะครับ เห็นเขามากันเป็นคู่ทำกิจกรรมร่วมกัน

เวลาตกเข้ายามค่ำ ผู้เขียนก็จ่ายค่าเช่าเรือ เพื่อที่จะได้พายเรือไปดูหิงห้อยที่เกาะอยู่บนต้นไม้ที่สวยงาม ตอนขึ้นเรือครั้งแรกแอบเมาเรือเล็กน้อย แต่สักพักก็โอเคครับ

บรรยากาศสองข้างทางยามเย็นได้ฟิลด์มากๆ ชิลสุดๆ เรือก็ล่องไปตามแม่น้ำท่าจีน และก็ไปตามต้นลำพูต่างๆ ซึ่งพอเข้าไปใกล้ๆ สิ่งที่เห็นคือหิงห้อยจำนวนมากที่เกาะอยู่ที่ต้นครับสวยงามมาก และน่าดูอย่างที่สุดเสียดายที่ไม่ได้เอากล้องถ่ายรูปไปด้วย

เรือล่องไปอย่างเอื่อยๆ ฟังเสียงน้ำกระทบข้างเรือและเสียเจื้อยแจ้วของผู้คนที่มาดูหิงห้อยเหมือนกัน ก็ให้ความรู้สึกผ่อนคลายดีมากๆครับ เรือล่องอยู่สักพักประมาณ 40 นาทีก็กลับเข้าฝั่งตอนนั้นร้านรวงปิดเกือบหมดแล้วครับ ผมก็ออกมาเดินเล่นๆชิวๆ ก่อนที่จะกลับเข้าที่พัก และเตรียมเดินทางกลับในรุ่งเช้า ถือว่าคุ้มจริงๆกับการมาเยือนถิ่นอัมพวาครั้งนี้

อุทยานแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ ไทยประจัน

อุทยานแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ ไทยประจัน

สวัสดีครับ แอดมินได้ไปเที่ยวมาอีกแล้ว หลังจากทริปที่ น่าน เมื่อต้นปี ก็หาเรื่องที่เที่ยวต่อ ขนาดกรุงเทพ ยังอากาศเย็นๆ ต่างจังหวัดน่าจะหนาวมากครับ

ครั้งนี้แอดมินได้เดินทางไปเที่ยวที่ สวนผึ้ง ราชบุรี ใกล้ๆ กรุงเทพไว้ก่อน ไปแค่เสาร์ อาทิตย์ หลังจากหาข้อมูล สถานที่ท่องเที่ยวราชบุรี แอดมินเลยเลือกสถานที่ที่เน้นเป็นธรรมชาติ ที่แรกแอดมินได้เดินทางไปที่ อุทยานแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ ไทยประจัน ครับ

อุทยานแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ ไทยประจัน

หลังจากเดินทางมาถึงที่อุทยาน ก็พบว่า ไม่มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวกันเลย ด้วยเพราะที่นี่มันไม่ดังหรืออย่างไร จึงไม่มีใครมากัน เลยสอบถามทางเจ้าหน้าที่ที่ทำการอยู่ที่อุทยานครับ ก็ได้ความว่า ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวจะมากันช่วงปลายฝนต้นหนาว เพราะช่วงนั้นอากาศเย็นและ น้ำในน้ำตกจะมีมาก เหมาะกับการท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติไทยประจัน

อุทยานแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ ไทยประจัน

แอดมินสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกับทางเจ้าหน้าที่อีกครั้งว่า ที่นี่มี แหล่งท่องเที่ยวที่ใหญ่ๆ ใดบ้าง ทางเจ้าหน้าที่ได้แนะนำจุดชมทิวทัศน์เหนืออ่างเก็บน้ำ อีกสถานที่หนึ่งคือ น้ำตกไทยประจัน แต่น้ำตกไทยประจัน ไม่สามารถเดินเข้าไปเองได้นะครับ ต้องมีเจ้าหน้าที่นำทางเข้าไป และต้องใช้เวลาถึง 3 วัน 2 คืน ในการเที่ยวน้ำตกไทยประจัน ครับ ประกอบกับช่วงนี้เจ้าหน้าที่ไม่แนะนำให้เข้าไปครับ เพราะคาดว่าน้ำตกคงมีน้ำน้อย เกรงว่าเข้าไปก็จะผิดหวัง

อุทยานแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ ไทยประจัน

ด้านซ้ายมือเป็นที่จอดรถนะครับ มีเส้นทางธรรมชาติให้เดินสำรวจกัน ส่วนเนินทางขวาขึ้นไปชม อ่างเก็บน้ำไทยประจันและเข้าไปที่ น้ำตกไทยประจันครับ สังเกตป้าย จะบอกว่าน้ำตกไทยประจันต้องเดินทางเข้าไป 15 กม. และต้องเดินทาง 3 วัน 2 คืนนะครับ แต่แอดมินไม่ได้เข้าไปนะครับ เลยไม่มีภาพมาให้ชมกัน

อุทยานแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ ไทยประจัน

แอดมินจึงเดินทางไป จุดชมทิวทัศน์เหนืออ่างเก็บน้ำ สถานที่นี้จากที่ทำการขับรถเข้าไปประมาณ 200 เมตรก็ถึงแล้วครับไม่ไกลอย่างที่คิด

อุทยานแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ ไทยประจัน

เสียดายที่แอดมินมาที่อุทยาน ก็ช่วงสายไปแล้ว รูปที่ถ่ายมาเลยไม่ค่อยสวยเท่าไหร แอดมินเดินชมทิวทัศน์ อากาศเย็นๆ แต่ร้อนแดด นี้ถ้าอากาศหนาวกว่านี้ นึกว่าอยู่ที่ ปางอุ๋ง นะเนี้ย ไว้คราวหน้าถ้ามีโอกาสได้ค้างคืน ที่นี้คงสวยมิใช่น้อย

อุทยานแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ ไทยประจัน
มุมพักผ่อน ถ้าร้อนแอดดมานั่งพักตรงจุดนี้ นั่งปล่อยใจ ปล่อยกาย รับลมเย็นๆ แค่นี้ก็ชิวมากแล้วครับ
อุทยานแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ ไทยประจัน
ช่วงนี้น้ำน้อย น้ำเลยลงค่อนข้างเยอะ ถ้าช่วงน้ำเต็มนี้คงสวยไม่น้อยเลย

อุทยานแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ ไทยประจัน อุทยานแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ ไทยประจัน

ในบริเวณ อุทยานแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ ไทยประจัน มีอ่างเก็บน้ำ ที่มีทัศนียภาพที่สวยงามครับ เหมาะสำหรับครอบครัว นักท่องเที่ยว ที่ชื่นชอบธรรมชาติ รักการเล่นน้ำ และแคมป์ปิ้ง ที่นี้อาจจะไม่ได้สวยมาก แต่ถ้าต้องการความเงียบสงบ ที่นี้ถือว่าโอเคเลยครับ

ที่ตั้ง อุทยานแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ ไทยประจัน

110 หมู่ที่ 5 บ้านไทยประจัน ต.ยางหัก อ. ปากท่อ จ. ราชบุรี   70140
โทรศัพท์ 08 7165 3278   อีเมล Thaiprachan_np@dnp.go.th

การเดินทางโดยรถยนต์

จากกรุงเทพมหานครฯ เดินทางไปจังหวัดราชบุรีได้โดยทางรถยนต์ตามถนนเพชรเกษม หรือทางถนนธนบุรี-ปากท่อ และทางรถไฟจากสถานีหัวลำโพงถึงสถานีรถไฟราชบุรี ระยะทางประมาณ 100 กิโลเมตร จากจังหวัดราชบุรีเดินทางโดยรถยนต์ไปตามถนนเพชรเกษม ระยะทางประมาณ 20 กิโลเมตร เลี้ยวขวาไปตามทางหลวงจังหวัดหมายเลข 3206 ระยะทางประมาณ 45 กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายเข้าบ้านไทยประจัน ระยะทาง 5 กิโลเมตร จะถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติไทยประจัน เส้นทางดังกล่าวเป็นเส้นทางลาดยางตลอดเส้นทาง

พิกัดอุทยานแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติไทยประจัน : 13.2677741,99.5517217

ที่พักราชบุรี

HotelStarsDiscountPrice before and discountSelect dates
ไท่ซานสวีท★★★--View hotel
ณ เวลา โฮเต็ล แอนด์ คอนเวนชั่น--View hotel
Tara Spa Ratchaburi★★--View hotel
The Sun resort Ratchaburi★★--View hotel
My Room★★★--View hotel
ขุนเขา ตำนานไพร ไอหมอก รีสอร์ท★★★--View hotel
Sans Hotel★★★--View hotel
โรงแรมเลอเลิศ ราชบุรี★★★--View hotel
Tulip Place★★★--View hotel
โรงแรมเวสเทิร์นแกรนด์ราชบุรี (SHA Extra Plus)--View hotel

แก่งส้มแมว สวนผึ้ง ราชบุรี

แก่งส้มแมว สวนผึ้ง ราชบุรี

คราวนี้แอดมิน เดินทางมาท่องเที่ยวราชบุรี หลังจาก อุทยานแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติไทยประจัน แอดมินก็มุ่งหน้าเข้าสู่แก่งส้มแมวทันทีซึ่งห่างจากอำเภอ สวนผึ้ง 25 กม.

ช่วงที่ขับมาที่ แก่งส้มแมว วิวภูเขาสวยประทับใจมากครับที่แก่งส้มแมวเราจะพบกับลำธารน้ำภาชี เกาะแก่ง โขดหิน และน้ำไม่ลึกมาก เหมาะกับนักท่องเที่ยวชอบธรรมชาติและเล่นน้ำ

แก่งส้มแมว สวนผึ้ง ราชบุรี

แก่งส้มแมวตั้งอยู่ในพื้นที่ ศูนย์ศึกษาพรรณไม้ป่า สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ อยู่บริเวณบ้านห้วยม่วง บนเทือกเขาตะนาวศรี ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ภายในมีสวนหย่อมพักผ่อน และศูนย์จำหน่ายเครื่องเซรามิคจากคนที่หมู่บ้าน

แก่งส้มแมว สวนผึ้ง ราชบุรี

เส้นทางศึกษาธรรมชาติ จะมีดอกไม้นานาพรรณมากมาย ให้ท่องเที่ยวชมกัน แอดมินไปช่วงเย็นมากแล้ว เกรงว่า ถ้าเดินสำรวจจะมืดค่ำเกินไป จึงขอสำรวจรอบ ๆ สถานที่แทนละกัน

แก่งส้มแมว สวนผึ้ง ราชบุรี

ที่นี้จะมีลักษณะฝายกันน้ำเป็นชั้นๆ ครับเหมือนน้ำตกเล็กๆ ซึ่งสวยงามมากครับ นักท่องเที่ยวบางท่านก็ลงเล่นน้ำกัน ซึ่งน้ำที่นี้สะอาดมากครับ ลงไปเล่นได้สบายๆ เลย

แก่งส้มแมว สวนผึ้ง ราชบุรี

แก่งส้มแมว สวนผึ้ง ราชบุรี

ฝายกั้นน้ำทำไว้ดูสวยงาม สวนป่าสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์จัดสร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสเจริญพระชนมพรรษา 5 รอบเป็นศูนย์รวมพันธุ์ไม้นานาชนิดอันมีค่าทางเศษฐกิจและเป็นแหล่งศึกษาทางธรรมชาติที่ดีเยี่ยมทั้งยังมีลำน้ำภาชีไหลผ่านกระทบแก่งหินขนาดใหญ่ที่รู้จักกันในนาม “แก่งส้มแมว”

แก่งส้มแมว สวนผึ้ง ราชบุรี ที่นี้มีนกยูง เยอะมาก แต่ละตัวสวยๆ ทั้งนั้น แอดมินรอให้นกยูงผายปีก ซึ่งเท่าที่จำได้ว่า นกยูงจะผายปีกก็ต่อเมื่อต้องการโชว์คู่ของมันเอง แต่นี้ ไม่มีเลย เลยอดได้รูปที่ต้องการครับ แต่ถ้านักท่องเที่ยวต้องการเห็นตัวเป็นๆ เยอะๆ มาทีนี่ไม่ผิดหวังแน่นอน

แก่งส้มแมว สวนผึ้ง ราชบุรี

น้ำไม่แรงมากเท่าไหร ไหลเรื่อยๆ แต่ถ้าช่วงหน้าฝนอาจจะต้องระวังนะครับ คาดว่าน้ำคงเยอะมาก นี้ขนาดแอดมินมาช่วงหน้าหนาว น้ำยังเยอะเลยครับ

แก่งส้มแมว สวนผึ้ง ราชบุรี

เดินเข้ามาสักพัก ก็พบกับ จุดชมวิวบนต้นไม้ครับ แต่ขึ้นไม่ได้นะครับ ที่นี้เป็นจุดทอดพระเนตรของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ครับ เห็นแล้วเด่นมากครับ เข้ากับบรรยกาศธรรมชาติสุดๆ

แก่งส้มแมว สวนผึ้ง ราชบุรี

แก่งนี้ใหญ่มาก แต่ถ่ายมาดูเหมือนเล็กๆ น้ำน่าลงไปเล่นมากครับ ตอนแอดมินไปไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวเท่าไหร ว่าจะเล่นน้ำแล้ว แต่ไม่ได้เตรียมชุดมาเลยอดไป

แก่งส้มแมว สวนผึ้ง ราชบุรี

สถานที่ตอนแรกเดินเข้าไปนึกว่าจะเล็กๆ แต่ที่ไหนได้ ต้องเดินเข้าไปอีกลึกเลย แต่แอดมินขอสำรวจเท่านี้ดีกว่าครับ เย็นมากแล้ว เดี่ยวมืดแล้วจะลำบากเอา

แก่งส้มแมว สวนผึ้ง ราชบุรี

ที่นี้มีให้บริการกางเต็นท์ด้วยนะครับ ถ้านักท่องเที่ยวท่านใดสนใจจะมาพักค้างคืนได้ไม่มีปัญหา ร้านอาหาร ห้องน้ำ มีความพร้อมหมดครับ สะดวกสบายผมว่าสวนผึ้งเดียวนี้ ถูกปรุงแต่งมากจนเกินไปแล้วครับ ตามรอยรุ่นพี่แบบ เขาใหญ่ ปาย
ถ้านักท่องเที่ยวที่อยากต้องการธรรมชาติจริงๆ และไม่ไกลจากกรุงเทพมาก ลองแวะมาที่แก่งส้มแมวก็โอเคนะครับ


ชื่อ : แก่งส้มแมว (ศูนย์ศึกษาพรรณไม้ป่า สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ )
ประเภท : แหล่งท่่องเที่ยวทางธรรมชาติ
ที่อยู่ : ศูนย์ศึกษาพรรณไม้ป่า สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ บริเวณบ้านห้วยม่วง ต.ตะนาวศรี อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี
เปิดบริการ : ปิด 18.00 น.
ค่าบริการ : เข้าชมฟรี ต้องการกางเต้นท์นอนติดต่อเจ้าหน้าที่
สถานที่จอดรถ : มี
สิ่งอำนวยความสะดวก : ร้านอาหาร เครื่องดื่ม เช่าห่วงยาง จะมีเฉพาะวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ , ห้องน้ำ , ศูนย์จำหน่ายเครื่องเซรามิคจากคนในบริเวณหมู่บ้าน
GPS : 99.280626592634 / 13.407977800699