33.3 C
Bangkok
วันเสาร์, กรกฎาคม 27, 2024
หน้าแรกการเงิน การลงทุนตัวอย่าง passive income ในไทย

ตัวอย่าง passive income ในไทย

Passive income คือ รายได้ที่เราได้รับโดยไม่ต้องทำงานเพื่อแลกเงิน แต่สามารถได้รับผลตอบแทนจากการเป็นเจ้าของทรัพย์สินใดสิ่งหนึ่ง เช่น การเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์เพื่อปล่อยเช่า การลงทุนในทรัพย์สินทางการเงิน เช่น หุ้น กองทุน พันธบัตร ฯลฯ

ในไทยมีตัวอย่างของ passive income อยู่มากมาย ตัวอย่างที่พบได้บ่อย ได้แก่

1. รายได้จากค่าเช่าอสังหาริมทรัพย์

การเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์เพื่อปล่อยเช่าเป็นตัวอย่างของ passive income ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในไทย เจ้าของอสังหาริมทรัพย์สามารถปล่อยเช่าอสังหาริมทรัพย์ของตนให้กับผู้อื่นเพื่อแลกกับค่าเช่า โดยค่าเช่าจะเป็นรายได้แบบ passive ที่ได้รับเป็นประจำทุกเดือน

2. รายได้จากเงินปันผลจากการลงทุนในหุ้น

การลงทุนในหุ้นเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการสร้าง passive income โดยผู้ลงทุนจะได้รับเงินปันผลจากการถือหุ้นในบริษัทจดทะเบียน เงินปันผลเป็นรายได้ที่บริษัทจดทะเบียนจ่ายให้กับผู้ถือหุ้นเพื่อเป็นตอบแทนการลงทุน

3. รายได้จากดอกเบี้ยเงินฝาก

การฝากเงินในธนาคารเป็นช่องทางการลงทุนที่ได้รับความนิยมอีกช่องทางหนึ่ง โดยผู้ฝากเงินจะได้รับดอกเบี้ยเงินฝากจากธนาคารเป็นรายได้แบบ passive ดอกเบี้ยเงินฝากเป็นรายได้ที่ธนาคารจ่ายให้กับผู้ฝากเงินเพื่อเป็นตอบแทนในการฝากเงิน

4. รายได้จากค่าลิขสิทธิ์

ผู้สร้างสรรค์ผลงาน เช่น หนังสือ ดนตรี ซอฟต์แวร์ เป็นต้น สามารถได้รับรายได้จากค่าลิขสิทธิ์จากการอนุญาตให้ผู้อื่นใช้ผลงานของตน ค่าลิขสิทธิ์เป็นรายได้แบบ passive ที่ได้รับเป็นประจำทุกเดือน

5. รายได้จากธุรกิจขายสินค้าออนไลน์

การสร้างธุรกิจขายสินค้าออนไลน์เป็นช่องทางในการสร้าง passive income ที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในปัจจุบัน เจ้าของธุรกิจสามารถขายสินค้าออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น Shopee, Lazada เป็นต้น โดยรายได้จากธุรกิจขายสินค้าออนไลน์สามารถแบ่งเป็นรายได้จากการขายสินค้าและรายได้จากค่าโฆษณา

6. รายได้จากธุรกิจขายลิขสิทธิ์

ผู้สร้างสรรค์ผลงาน เช่น หนังสือ ดนตรี ซอฟต์แวร์ เป็นต้น สามารถสร้างธุรกิจขายลิขสิทธิ์เพื่อจำหน่ายผลงานของตนเองให้กับผู้อื่น รายได้จากธุรกิจขายลิขสิทธิ์สามารถแบ่งเป็นรายได้จากการขายลิขสิทธิ์และรายได้จากค่าบำรุงรักษา

7. รายได้จากธุรกิจแฟรนไชส์

การซื้อแฟรนไชส์เป็นช่องทางในการสร้างธุรกิจที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในปัจจุบัน ผู้ซื้อแฟรนไชส์จะได้รับสิทธิ์ในการใช้แบรนด์ ผลิตภัณฑ์ และบริการของเจ้าของแฟรนไชส์ โดยรายได้จากธุรกิจแฟรนไชส์สามารถแบ่งเป็นรายได้จากการขายสินค้าหรือบริการและรายได้จากค่าธรรมเนียมต่างๆ

ตัวอย่าง passive income เหล่านี้เป็นเพียงตัวอย่างบางส่วนเท่านั้น ยังมีตัวอย่าง passive income อีกมากมายที่สามารถสร้างขึ้นได้ การเลือกประเภทของ passive income ที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น ความรู้ความสามารถ เงินทุน และความเสี่ยงที่ยอมรับได้

บทความก่อนหน้านี้
บทความถัดไป

บทความ ข่าวสาร มาใหม่

ททท. ต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวลาวบนรถไฟทดลองเต็มรูปแบบจากเวียงจันทน์สู่กรุงเทพฯ

กรุงเทพฯ 14 กรกฎาคม 2567 – การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับ การรถไฟแห่งประเทศไทย...

พรีวิว: โคปา อเมริกา 2024 จัดที่สหรัฐอเมริกา

โคปา อเมริกา 2024 เป็นการแข่งขันฟุตบอลระดับทวีปอเมริกาใต้ครั้งที่ 48 แต่จะจัดขึ้นที่สหรัฐ...

ตลาดนัดแม่สาย: การค้าชายแดนไทย-พม่า

ตลาดนัดแม่สายตั้งอยู่ในอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อสำคัญระหว่างประเทศไ...

วิธีการเลือกอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ

ความสำคัญของการเลือกอาหารที่มีประโยชน์ การเลือกอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมีความสำคัญอย่า...

ประโยชน์ของการออกกำลังกายเป็นประจำ

การออกกำลังกายเป็นประจำมีบทบาทสำคัญในการเพิ่มสมรรถภาพทางกายอย่างมีประสิทธิภาพ การออกกำลังก...