35.6 C
Bangkok
วันอังคาร, มีนาคม 19, 2024
หน้าแรกTravel12 เดือน 7 ดาว 9 ตะวันป่าเปลี่ยนสี ฤดูใบไม้ร่วงที่สวยที่สุดในเมืองไทย

ป่าเปลี่ยนสี ฤดูใบไม้ร่วงที่สวยที่สุดในเมืองไทย

หากจะพูดถึงป่าเปลี่ยนสีในเมืองไทยนั้นมีอยู่หลายแห่งเลยทีเดียว ซึ่งก็เป็นเป็นอีกหนึ่งบรรยากาศของความงดงามบวกกับความอันซีน ที่จะทำให้นักท่องเที่ยวไม่ต้องเดินทางไปไกลถึงต่างประเทศ ด้วยบรรยากาศของผืนป่าที่มีหลากสีสันของใบไม้สีต่างๆ ที่กำลังอยู่ในช่วงผลัดใบ ทำให้เราต่างได้มีโอกาสเห็นความงดงามของธรรมชาติสรรค์สร้าง ด้วยใบไม้ที่หลากสีเตรียม พร้อมที่จะผลัดใบ และที่ผลัดใบไปแล้วต่างคละเคล้ากันอย่างสวยงามลงตัว ยังมีป่าเปลี่ยนสีที่สวยงามอีกแห่งอยู่ช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่สวยที่สุดในเมืองไทยนั่นก็คือเขต อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว จ. เพชรบูรณ์นั่นเอง

“มหัศจรรย์ป่าเปลี่ยนสี” ที่คุณสัมผัสได้ในช่วงหน้าหนาว ในผืนป่าบริเวณนี้จะเต็มไปด้วยป่าผสมผลัดใบ ที่จะเปลี่ยนจากสีเขียวกลายเป็นสีเหลือง ส้ม และแดงที่สดใส ซึ่งสีสันเหล่านี้สามารถเห็นได้ชัดเจนบริเวณภูหลังกงเกวียน  ที่จะทำให้บริเวณนั้นกลายเป็นป่าเปลี่ยนสีที่สวย งามมาก  แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ที่พร้อมให้คุณเดินทางมาสัมผัส กับบรรยากาศที่หนาวเย็น เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เกิดขึ้นในรอบปีก่อนที่ฤดูแล้งจะมาเยือน นอกป่าเปลี่ยนสีจากจะสวยงาม และมีบรรยากาศคล้ายคลึงกับต่างประเทศแล้ว อากาศที่นี่ ยังบริสุทธิ์สุดอีกด้วย ยิ่งหากได้มาชมบรรยากาศยามเช้า คงชาร์ตพลังให้คนทำงานไม่น้อย

จังหวัดเพชรบูรณ์

เดือนที่ควรไปท่องเที่ยว

มหัศจรรย์ป่าเปลี่ยนสี ที่ควรจะมาท่องเที่ยวที่สุด จะอยู่ในช่วงเดือน ธันวาคม-มกราคม ซึ่งในช่วงเวลานั้นผืนป่าบริเวณนี้จะกลายเป็นป่าผสมผลัดใบหลากสีสัน จากสีเขียวกลายเป็นสีเหลือง ส้ม แดง ซึ่งจุดที่สามารถมองเห็นภูหลังกงเกวียนได้ชัดเจนที่สุดคือ บริเวณกิโลเมตรที่  61 บนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 12

กิจกรรมแนะนำเมื่อมาท่องเที่ยว

1. เส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติ

อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว ที่มีป่าเปลี่ยนสีเป็นอาณาจักรป่าสนเขาเป็นธรรมชาติที่มีลักษณะโดดเด่น ป่าสนน้ำหนาวยังพบทั้งสนสองใบและสนสามใบซึ่งขึ้นเกาะกลุ่มท่ามกลางทุ่งหญ้าเขียวขจี อีกทั้งความสวยงามของป่าต้นน้ำลำธาร  ที่เป็นเสมือนกำแพงธรรมชาติ กั้นเขตแดนระหว่างภาคอีสานและภาคเหนือ เส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติอยู่บริเวณนี้ 2-3 จุด ขึ้นอยู่ที่ว่านักท่องเที่ยวต้องการเดินลักษณะไหนใกล้หรือไกล หรือต้องการพบเจออะไรบ้าง ที่นี่ยังมีสิ่งที่น่าสนใจในบริเวณนี้ไม่น้อย อย่างหญ้าดึกดำบรรพ์ ลานทิวสน ฯลฯ

2. กางเต็นท์นอนดูดาว ฟังเสียงสัตว์

เพื่อให้สมกับเป็นทริปพิเศษ ที่บางคนเดินทางด้วยจักรยาน บิ๊กไบค์ และรถยนต์  ใครที่จะมาท่องเที่ยวที่เป็นถนนสายเดียวกันกับอุทยานแห่งชาติน้ำหนาวนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นแบบทัวร์ 3 วัน  2 คืน แบบนอนกลางป่าหน้าถ้ำอันเงียบสงบ ซึ่งส่วนใหญ่จะแวะกางเต๊นท์นอนดูดาว ฟังเสียงสัตว์ที่ป่าเปลี่ยนสีในอุทยานแห่งชาติน้ำหนาวนี้ แบบกินลมชมทิวทัศน์ สัมผัสอากาศหนาวบนยอดภู โดยเฉพาะในช่วงฤดูไม้ผลัดใบ  รอบๆ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวจะเป็นบริเวณที่มีป่าหนาแน่น แม้จะมีทั้งบ้านพัก ร้านอาหาร และลานกางเต๊นท์ ที่มีอยู่ 3 ลานใหญ่ๆ ให้เลือกใช้ แล้วแต่ว่าชอบใกล้-ไกล แค่ไหน โดยแต่ละลานก็มีห้องน้ำเตรียมพร้อมไว้  สำหรับร้านขายสินค้า ก็มีอุปกรณ์กันหนาวเล็กๆน้อยๆ  อย่างเสื้อกันหนาว ถุงมือ หมวกไหมพรม เตาถ่านและมันสดๆ เอาไว้สำหรับเตรียมให้ไปปิ้งย่างกันระหว่างผิงไฟตอนกลางคืนอีกด้วยได้อารมณ์ของการตั้งแคมป์จริงๆ

3. แหล่งรวมนกหลากสายพันธุ์

อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว ที่นอกจากจะมาชมป่าเปลี่ยนสีแล้ว ที่นี่ยังมีนกอาศัยอยู่ไม่น้อยกว่า 340 ชนิด เพราะที่นี่ได้ขึ้นชื่อว่า เป็นแหล่งดูนกที่มีชื่อเสียงที่สุดอีกแห่งหนึ่งของประเทศ โดยนกที่พบเป็นประจำมีหลากหลายพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็นนกขุนแผนหัวแดง นกติ๊ดสุรต่าล นกปีกลายสก๊อต นกขมิ้นท้ายทอยดำ นกไต่ไม้ท้องสีส้ม นกปรอดโอ่งเมืองเหนือ นกกะรางหัวหงอก นกพญาไฟใหญ่ และนกหัวขวานใหญ่หงอนเหลือง  รวมทั้งแมลงและผีเสื้อหลากหลายสายพันธุ์และผีเสื้อไม่น้อยกว่า 350 ชนิด และยังเป็นแหล่งชุมนุมของ นกหัวขวานไม่ต่ำกว่า 20 ชนิด  ซึ่งที่อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว จัดทำเส้นทางศึกษาธรรมชาติหลายเส้นทาง สามารถเลือกดูนกกันได้ตามสะดวก

ข้อควรรู้

1. หากคุณได้นอนกางเต็นท์ ที่ป่าเปลี่ยนสีที่อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว

จะมีเจ้าหน้าที่มาสอบถามว่าต้องการไปชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นหรือไม่  ซึ่งถือเป็นบริการเสริมน่าประทับใจ  เพราะหากแจ้งความประสงค์กับเจ้าหน้าที่ไว้ ช่วงเช้าเจ้าหน้าที่จะมาปลุกถึงหน้าเต็นท์ เพื่อให้เดินทางไปยัง “ภูค้อ” สำหรับเดินทางไปยังจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามของ อีกด้วย ซึ่งก่อนที่จะไปชมพระอาทิตย์ขึ้น หลังจากที่ดื่มด่ำบรรยากาศของป่าเปลี่ยนสีแล้ว ก็ต้องนอนแช่ความหนาวเย็นให้ชุ่มปอด ที่นี่หนาวเย็นจนถึงขั้วกระดูกมาก อย่าลืมเตรียมเสื้อกันหนาวและผ้าห่มต้องหนา ๆ ด้วย

2. นอกที่ทำการอุทยานฯ มีแหล่งท่องเที่ยว

มีที่ท่องเที่ยวสำคัญหลายแห่งนอกอุทยานแห่งชาติน้ำหนาวที่มีความสวยงาม  หลังจากชมป่าเปลี่ยนสีแล้ว ก็สามารถเดินทางต่อไปยัง ถ้ำผาหงษ์ สวนสนบ้านแปก สวนสนภูกุ่มข้าว น้ำตกเหวทราย ภูผาจิต   โดยเฉพาะที่ถ้ำผาหงษ์ และภูผาจิต ที่สามารถชมพระอาทิตย์ตกดินที่นับว่ามีความสวยงามมาก ซึ่งระหว่างการเดินทางค่อนข้างสวยงามเพราะมีใบไม้เปลี่ยนสี เป็นสีเหลืองแดง ได้เห็นป่าไผ่ที่ตั้งตรงเป็นทิวแถวสวยงาม

3. ค่าบริการเข้าชมป่าเปลี่ยนสีที่อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว

ค่าบริการเพื่อเข้าไปชมป่าเปลี่ยนสี ที่อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว เด็กคนไทย 20 บาท, ผู้ใหญ่คนไทย 40 บาท ส่วนเด็กชาว ต่างชาติ  100  บาท, ผู้ใหญ่ชาวต่างชาติ 200 บาท สำหรับค่าบริการยานพาหนะ หากเป็นรถจักรยาน 10 บาทต่อคัน, รถจักรยานยนต์ 20 บาทต่อคัน, รถยนต์สี่ล้อ 30 บาทต่อคัน, รถยนต์หกล้อ 100 บาทต่อคัน และรถยนต์ไม่เกินสิบล้อ 200 บาทต่อคัน

ข้อมูลจำเพาะการท่องเที่ยว

  • อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว โทรศัพท์ : 056-810-724 , 081-962-6236
  • อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว โทรศัพท์ : 056-729-002
  • ททท. สำนักงานเพชรบูรณ์  โทรศัพท์ : 055-252-742-3 , 055-259-907

บทความ ข่าวสาร มาใหม่

5G จะส่งผลต่อเศรษฐกิจอย่างไร

เทคโนโลยี 5G ได้รับความสนใจอย่างมากในปัจจุบัน เนื่องจากมีความสามารถในการเชื่อมต่ออินเทอร์เ...

เทคโนโลยี 5G: คืออะไร มีประโยชน์ และประยุกต์ใช้งานอย่างไร

เทคโนโลยี 5G ถือเป็นหนึ่งในนวัตกรรมที่กำลังเปลี่ยนแปลงวงการสื่อสารและเทคโนโลยีในปัจจุบัน 5...

การใช้งาน IoT: สร้างโอกาสและประโยชน์ที่มาพร้อมกับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของสรรพ...

ในยุคที่เทคโนโลยีก้าวกระโดดไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว การใช้งานอินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง (Intern...

เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตของสิ่งต่างๆ (IoT): การเชื่อมต่อที่เปลี่ยนวิถีการใช้ชีวิต

เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตของสิ่งต่างๆ (Internet of Things หรือ IoT) คือการเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่าง...

เทคโนโลยีเสมือนจริง (VR) และเทคโนโลยีเสมือนจริงเสริม (AR)

เทคโนโลยีเสมือนจริง (Virtual Reality - VR) และเทคโนโลยีเสมือนจริงเสริม (Augmented Reality ...