41.1 C
Bangkok
วันเสาร์, เมษายน 20, 2024
หน้าแรกTravelเตรียมตัวเที่ยวเตรียมตัวเที่ยวทะเล

เตรียมตัวเที่ยวทะเล

รู้จัก ‘Beach Bag’ กันหรือเปล่า? สำหรับคนชอบเที่ยวทะเลก็คงรู้จักกันดี แต่ถ้าไม่รู้ก็ไม่เป็นไร ขอเฉลยให้ฟังว่า มันก็คือกระเป๋าชายหาดใบขนาดย่อม เอาไว้ใช้สำหรับใส่สิ่งของจำเป็นเมื่อคุณจะลงไปเล่นน้ำหรือเดินเล่นชิลชิลที่ชายหาดนั่นแหละ เรียกว่าเป็นไอเท็มที่ขาดไม่ได้เวลาไปเที่ยวทะเล

เตรียมตัวเที่ยวทะเลว่าแต่…ก่อนจะลงไปเดินเล่นชายหาดต้องพกอะไรติดตัวไปบ้าง เพราะบางคนก็ชอบลืมนั่นลืมนี่ นึกขึ้นได้อีกทีก็ออกมาจากที่พักซะไกลแล้ว งั้นเอาอย่างนี้ วันนี้เรามาเปิดคู่มือเที่ยวทะเล ส่อง 7 เคล็ดลับในการจัดกระเป๋าชายหาดที่จะทำให้คุณแพ็กของใช้จำเป็นได้อย่างครบครันแน่นอน ต้องทำยังไงบ้าง มาดูกัน…

1. เลือกกระเป๋าให้เหมาะสม

เตรียมตัวเที่ยวทะเลก่อนอื่นก็ต้องมาเลือกกระเป๋าชายหาดกันก่อน สำหรับ beach bag มักจะมาในรูปทรง ขนาด สีสัน และวัสดุที่แตกต่างกัน ควรเลือกซื้อจากพื้นฐานความชอบส่วนตัว และฟังก์ชั่นที่เหมาะกับคุณ โดยอาจจะต้องตอบคำถามกับตัวเองให้ได้ก่อนว่าคุณจะไปเที่ยวทะเลที่ไหน ทะเลที่จะไปมีลักษณะชายหาดเป็นอย่างไร จากนั้นก็เลือกกระเป๋าให้เหมาะสมกับการใช้งาน เช่น ถ้าคุณมีสิ่งของเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ต้องพกเยอะ ก็ควรเลือกกระเป๋าที่มีช่องใส่ของด้านในหลาย ๆ ช่อง เพื่อการจัดการข้าวของให้ครบครันแต่ไม่ยุ่งเหยิง หรือถ้าคุณอยากไปปูเสื่อนอนเล่นแนบผืนทราย กระเป๋าของคุณควรทำมาจากวัสดุที่กันน้ำได้อย่างดี

แต่ถ้าคุณอยากลงไปเล่นน้ำทะเลด้วยก็ต้องเตรียมกระเป๋าใบขนาดใหญ่ขึ้นมาอีกสักนิดเพื่อใส่ผ้าเช็ดตัว ชุดว่ายน้ำ และชุดสำหรับเปลี่ยน แต่ไม่ว่าคุณจะเลือกกระเป๋าแบบไหนก็ตาม ต้องทำใจอย่างหนึ่งว่าทรายมักจะเข้าไปติดตามซอกหลืบของกระเป๋าไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง อย่าไปซีเรียสกับเรื่องนี้มากนักล่ะ

2. ซ่อนกระเป๋าไซส์มินิไว้อีกที

หลังจากเลือกกระเป๋าชายหาดได้ดั่งใจแล้ว ต้องไม่ลืมกระเป๋าไซส์มินิด้วย เคยเป็นมั้ย? เวลาจะหยิบลิปมันขึ้นมาทาปาก หรือหยิบมือถือมาแชะภาพช็อตเด็ด เป็นต้องเสียเวลาอยู่นานสองนาน เพราะมันชอบหลบอยู่ใต้ก้นกระเป๋า ควานหาก็ลำบาก แต่ถ้าคุณมีกระเป๋าใบเล็ก ๆ เพิ่มมาอีก 1 ใบ คุณก็สามารถเอาของจุกจิกพวกนี้ใส่ลงไป เวลาหยิบใช้ก็ง่ายขึ้นเยอะ

นอกจากลิปมันและมือถือ ก็อาจจะเพิ่มเจลล้างมือ ผ้าเช็ดทำความสะอาดแบบเปียก แว่นกันแดด หวีอันเล็กๆ กิ๊บดำ และบัตรเครดิตไปด้วย หรือแม้กระทั่งยาใส่แผลหลอดเล็ก ๆ ก็ควรมีไว้ เผื่อกรณีฉุกเฉินที่คุณอาจโดนหินคม ๆ หรือเปลือกหอยบาดเท้า จะได้หยิบขึ้นมาใช้ได้อย่างทันท่วงที

3. ถุงพลาสติกสำคัญมาก

ถ้าไม่อยากให้ไอโฟนของคุณเปียกน้ำโดยไม่ตั้งใจล่ะก็ อย่าลืมพกถุงพลาสติกใส่เอาไว้ห่อหุ้มโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทั้งหลาย นอกจากจะกันน้ำแล้ว ยังช่วยป้องกันรอยขีดข่วนจากทรายและเศษเปลือกหอยได้ด้วย อีกอย่างคือพวกถุงขนมขบเคี้ยว กินเสร็จอย่าเพิ่งทิ้งถุง เพราะเด็ก ๆ ที่อยากจะเก็บเปลือกหอยสวย ๆ ไว้เพื่อสะสมก็สามารถนำเปลือกหอยใส่ถุงขนมได้ แต่อย่าลืมล้างเปลือกหอยให้สะอาดก่อนเพื่อกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ (ทางที่ดีอย่าเก็บกลับบ้านเลย ให้มันอยู่คู่ธรรมชาติแบบนั้นดีกว่า)

นอกจากนี้ ถุงพลาสติกใส่ของ (ถุงก๊อบแก๊บ) ก็จำเป็นเช่นกัน เอาไว้สำหรับใส่เสื้อผ้าเปียก ชุดว่ายน้ำ และผ้าเช็ดตัวที่ใช้แล้ว เพื่อป้องกันไม่ให้ของอื่น ๆ ในกระเป๋าเปียกไปด้วย

4. ผ้าขนหนูต้องพก 2 ผืน

ผ้าเช็ดตัวม้วน ๆ ๆ ให้แน่น ประหยัดเนื้อที่กระเป๋าได้อีกเพียบ หลายคนพกผ้าเช็ดตัวลงหาดไปด้วย เผื่อเอาไว้เช็ดตัวหลังจากเล่นน้ำทะเล แต่แค่ผืนเดียวไม่พอหรอก! เพราะหลังจากที่ขึ้นจากทะเลคุณต้องการผ้า 1 ผืน สำหรับเช็ดตัวให้แห้ง และอีกผืนไว้สำหรับปูนอนบนเตียงชายหาด มันไม่สนุกเลยที่ต้องใช้ผ้าที่เราเช็ดตัวแล้วเอามาปูนอน เพราะมันเปียก และนอนไม่สบายตัวเอาซะเลย ดังนั้น สิ่งที่ต้องทำก็คือ เตรียมผ้าขนหนู 2 ผืน จากนั้นม้วนซ้อนทับกันให้แน่นเพื่อประหยัดพื้นที่ และเอาใส่ไว้ด้านใน วางชิดมุมใดมุมหนึ่งของกระเป๋า จะได้หยิบออกมาได้สะดวก และใช้ปูนอนได้ทันทีที่เลือกมุมเหมาะ ๆ ได้แล้ว

5. เตรียมหนังสือที่ชอบไปด้วย

มันจะเป็น beach bag ที่สมบูรณ์ไม่ได้ ถ้าขาดหนังสือดี ๆ สักเล่ม ไม่มีช่วงเวลาไหนจะดีไปกว่า การได้อ่านหนังสือสนุก ๆ ในขณะที่ได้ยินเสียงคลื่นซัดกระทบฝั่งไปพร้อมกัน มันคือสุดยอดแห่งการพักผ่อนที่แสนจะผ่อนคลาย บางครั้งอาจทำให้เผลอหลับไปอย่างมีความสุข

มันอาจดูเหมือนไม่ใช่เรื่องสำคัญ แต่อยากให้คุณลองเลือกหนังสือดีๆ ที่คุณชอบติดมือมาด้วยสักเล่ม ไม่แนะนำหนังสือที่มีเนื้อหาตึงเครียดเกินไป เพราะเดี๋ยวอ่านๆ ไปแล้วไม่เพลินก็คงต้องเลิกอ่านอยู่ดี ดังนั้นควรเลือกหนังสือที่อ่านแล้วสนุกสนาน เป็นหนังสือเล่มโปรดที่คุณอยากอ่านในวันหยุดพักผ่อนจริงๆ และอย่าลืมเก็บรักษาให้ดีด้วยการใส่ถุงพลาสติกกันน้ำก่อนเก็บเข้ากระเป๋าทุกครั้งด้วยล่ะ

แนะนำสำหรับคนชอบอ่าน อาจจะหาซื้อ Kindle (เป็นเครื่องมืออ่านหนังสือสำหรับการอ่าน e-book โดยเฉพาะ จุดเด่นคือจอภาพให้ความคมชัดสูงและถนอมสายตา ไร้แสงสะท้อนแม้ในที่แสงจ้า) มาไว้อ่านก็ได้เพราะทำให้คุณสามารถอ่านนิยายเล่มโปรดได้ง่ายใต้แสงอาทิตย์ที่สดใส

6. อย่าลืมครีมกันแดด

ครีมกันแดดเป็นของสำคัญที่สุดที่ต้องมีในกระเป๋าของคุณ แม้ว่าคุณอยากมีผิวสีแทนแค่ไหนก็ตาม ยังไงผิวของคุณก็ต้องการการดูแลปกป้องจากรังสียูวีที่รุนแรงของดวงอาทิตย์ ดังนั้น จึงต้องพกครีมกันแดดด้วยทุกครั้ง โดยเลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF ในระดับที่ทาแล้วรู้สึกสบายตัวที่สุด ควรทาครั้งแรกก่อนออกจากที่พัก จากนั้นทาอีกครั้งเมื่อถึงชายหาด และอีกครั้งหลังจากเล่นน้ำทะเล ที่ต้องทาบ่อยๆ ก็เพราะว่าแม้แต่ครีมกันแดดที่โฆษณาว่ากันน้ำ ยังไง้ยังไงมันก็จะละลายหลุดออกมาอยู่ดี และทำให้คุณเสี่ยงต่ออาการผิวแสบไหม้ก็ได้

7. พกขนมและน้ำดื่มไปด้วย

ถ้าไม่อยากหิวระหว่างเล่นน้ำทะเลเพลินๆ ก็อย่าลืมพกขนมขบเคี้ยวและเครื่องดื่มไปด้วย แต่มีเทคนิคคือให้ห่อเครื่องดื่มเย็นๆ ของคุณด้วยผ้าขนหนู จะช่วยให้เครื่องดื่มไม่คลายความเย็นไปเร็วนัก หรือถ้าจะให้ดีควรแยกกระเป๋าใส่เครื่องดื่มต่างหาก อาจจะเป็นคูลเลอร์ปิกนิกโดยเฉพาะเพื่อรักษาความเย็นได้นานๆ และหลังจากกินขนมกันเสร็จแล้ว อย่าลืมเก็บเศษขยะให้เรียบร้อย คงไม่มีใครอยากให้ชายหาดสวยๆ เต็มไปด้วยถุงขนมและกระป๋องน้ำอัดลม จริงมั้ย? ดังนั้น ต้องแน่ใจว่าคุณมีถุงพลาสติกสำหรับใส่เศษขยะเหล่านี้แล้วนำไปทิ้งลงถังขยะทุกครั้ง

เพียงเท่านี้ การเลือกกระเป๋าชายหาดและการแพ็กของลงกระเป๋าก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ที่สำคัญยังทำให้วันเที่ยวพักผ่อนของคุณไม่ต้องสะดุด และอาจเป็นวันที่มีความสุขสมบูรณ์แบบที่สุดเลยก็ว่าได้ อย่าลืมเอาไปปรับใช้กันดูนะจ๊ะ


https://www.thairath.co.th/lifestyle/travel/485139

บทความ ข่าวสาร มาใหม่

5G จะส่งผลต่อเศรษฐกิจอย่างไร

เทคโนโลยี 5G ได้รับความสนใจอย่างมากในปัจจุบัน เนื่องจากมีความสามารถในการเชื่อมต่ออินเทอร์เ...

เทคโนโลยี 5G: คืออะไร มีประโยชน์ และประยุกต์ใช้งานอย่างไร

เทคโนโลยี 5G ถือเป็นหนึ่งในนวัตกรรมที่กำลังเปลี่ยนแปลงวงการสื่อสารและเทคโนโลยีในปัจจุบัน 5...

การใช้งาน IoT: สร้างโอกาสและประโยชน์ที่มาพร้อมกับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของสรรพ...

ในยุคที่เทคโนโลยีก้าวกระโดดไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว การใช้งานอินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง (Intern...

เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตของสิ่งต่างๆ (IoT): การเชื่อมต่อที่เปลี่ยนวิถีการใช้ชีวิต

เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตของสิ่งต่างๆ (Internet of Things หรือ IoT) คือการเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่าง...

เทคโนโลยีเสมือนจริง (VR) และเทคโนโลยีเสมือนจริงเสริม (AR)

เทคโนโลยีเสมือนจริง (Virtual Reality - VR) และเทคโนโลยีเสมือนจริงเสริม (Augmented Reality ...